ตอนที่ 4: วางระบบรหัสสินค้าให้ไม่ซ้ำ จำง่าย ใช้งานได้ยาวๆ
ปัญหาหนักใจของร้านหลายร้านคือ…
> “รหัสสินค้าซ้ำกัน”
“ตั้งรหัสมั่วๆ แล้วกลับมาจัดการไม่รู้ตัวไหนคืออะไร”
การจัดการสต๊อกจะลื่นไหลหรือวุ่นวาย อยู่ที่การวาง “ระบบรหัสสินค้า” นี่แหละครับ
—
วิธีตั้งรหัสสินค้าให้มีระบบ ใช้งานง่าย ไม่งง
1. กำหนดโครงสร้างรหัสให้มีความหมาย
โดยอาจจะใช้พื้นฐานของชนิด code จากบทความก่อนหน้า นั่นคือ CODE-128
ตัวอย่าง: CAT01-RED-M
CAT01 = เสื้อยืดรุ่น A
RED = สีแดง
M = ไซส์กลาง
แบบนี้เห็นรหัสก็รู้ได้ทันทีว่าสินค้าอะไร
หรือง่ายๆคือการตั้งรหัสจากพื้นฐานสินค้าที่เราจำได้ เพราะถ้าเราขายสินค้าทุกวัน เราก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าสินค้าที่ขายรหัสคืออะไร เริ่มต้นด้วยตัวอักษรไหน ก็จะทำให้การขายง่ายขึ้น เป็นต้น
2. ใช้ตัวอักษร + ตัวเลขร่วมกัน
เพื่อหลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน และช่วยให้มีจำนวนรหัสมากพอในอนาคต
3. อย่าขึ้นต้นรหัสด้วยเลข 0 ถ้าใช้ Excel
เพราะ Excel มักตัดเลข 0 อัตโนมัติ ทำให้รหัสเพี้ยนได้
4. เก็บรหัสไว้ในไฟล์เดียวกันทั้งหมด
ใช้ Excel หรือ Google Sheets แล้วใส่คอลัมน์: รหัสสินค้า / ชื่อสินค้า / ราคา / จำนวน
ทำให้ค้นหา แก้ไข และเชื่อมกับระบบ POS ได้สะดวก
5. ทุกสินค้าต้องมีรหัสเดียวเท่านั้น
อย่าให้มีรหัสซ้ำกันเด็ดขาด เพราะจะทำให้ระบบ POS สับสน และออกรายงานผิด
—
อย่าลืม!
> “รหัสสินค้าคือรากฐานของระบบ POS”
ถ้ารหัสดี สต๊อกจะเป็นระบบ และง่ายต่อการขยายร้านในอนาคต
—
ตอนหน้า: จะรู้ได้ยังไงว่าสินค้าตัวไหนขายดี? ใช้ระบบบาร์โค้ดวิเคราะห์ยอดขายได้ยังไง?
—
#จัดการรหัสสินค้า#POSสำหรับร้านค้า#บาร์โค้ดร้านค้า#รหัสไม่ซ้ำชีวิตดีขึ้น#เจ้าของร้านต้องรู้#SMEไทย#ค้าส่งก็ต้องจัดระบบ#สต๊อกไม่มั่วอีกต่อไป
